ท่อ duct ระบบท่อ ที่ต้องมีการออกแบบจากวิศวกรโรงงาน ผู้เชี่ยวชาญ
ท่อ duct ออกแบบเพื่อหลากหลายจุดประสงค์ในโรงงานอุตสาหกรรม ท่อductที่ออกแบบอย่างดีต้องสามารถซ่อมบำรุงได้ง่าย
การวาง ท่อ duct มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับ ระบบระบายอากาศ ซึ่งเป็นหัวใจหลัก ที่สำคัญ ของโรงงานอุตสากรรม โดยมีระบบท่อ ที่สามารถนำส่งความเย็น กำจัดความร้อนหรือ ระบายความร้อน เพื่อให้โรงงาน มีระบบระบายอากาศที่ดี อากาศหมุนเวียน อย่างสม่ำเสมอ มีการเชื่อมต่ออย่างเป็นระบบ จากแผนกหนึ่งไปยังอีกแผนกหนึ่ง เพื่อความประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ต้นทุนการผลิต ดังนั้นจุดเริ่มต้นจากการออกแบบที่ดี โดยวิศวกรผู้ชำนาญ ระบบท่ออุตสาหกรรม
จุดประสงค์ สำคัญของการออกแบบระบบ ท่อ เพื่อการระบายอากาศ ภายในโรงงาน อาจใช้ท่อสังกะสี ที่สามารถสั่งทำให้เลี้ยวโค้ง ไปตามอาคารได้อย่างสะดวก และบางจุดอาจทำเป็นจุดที่สามารถ เปิดเข้าไปดูหรือซ่อมบำรุงได้โดยง่าย ท่อ สำหรับการระบายอากาศ จะถูกติดตั้งบนเพดาน สูงบ้าง ต่ำบ้าง แล้วแต่ลักษณะการออกแบบ ซึ่งในบางครั้ง ซ่อนไว้ใต้ฝ้า หรือ การออกแบบ บางแห่งก็เปิดให้เห็นได้โดยง่าย เพื่อการซ่อมบำรุงรักษาได้โดยสะดวก และเป็นการแสดงถึง การออกแบบอย่างมีระเบียบ จึงสามารถแสดงให้เห็นว่า เป็นส่วนหนึงของสถาปัตยกรรม การตกแต่งได้อย่างดี
ท่อ duct ที่มีการออกแบบที่ดี จะทำให้การระบายอากาศ ในโรงงานดีขึ้นอย่างมาก ซ่อมบำรุงง่าย ประหยัดพลังงาน ในการทำความเย็น
ท่อductแบ่งเป็น 4 แบบ ดังนี้
1. ท่อกลม คือท่อที่ทำจากวัสดุสังกะสี หรือสแตนเลส
2. ท่อเหลี่ยม คือท่อที่ทำจากวัสดุสังกะสี หรือสแตนเลส
3. ท่อสไปร่อน (Spiral) คือท่อสำเร็จรูป มีลักษณะเป็นเกลียวตลอดท่อ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และน้ำหนักเบา สามารถทำการหุ้มฉนวน และทำสีได้ มี 2 แบบ คือ แบบกลม และ แบบเหลี่ยม ทำจากวัสดุ 2 ชนิด ดังนี้
3.1 ท่อสไปร่อนสังกะสี คือทำจากวัสดุเหล็กเคลือบสังกะสี มีความหนาตั้งแต่ 0.45 มม. ถึง 1.5 มม.
สามารถทนความร้อน และความเย็น ตั้งแต่อุณหภูมิ -40 ถึง 250 องศาเซลเซียล
3.2 ท่อสไปร่อนสแตนเลส คือทำจากวัสดุสแตนเลส มีความหนาตั้งแต่ 0.40 มม. ถึง 0.60 มม. สามารถทนความร้อน และ ความเย็น ตั้งแต่อุณหภูมิ -40 ถึง 450 องศาเซลเซียล
4. ท่อเฟล็กซ์ คือท่อสำเร็จรูป ทำจากวัสดุอลูมิเนียม สามารถดัด, โค้ง, งอได้ มีความหนา 115 ไมคอน สามารถทนความร้อน และความเย็น ตั้งแต่อุณหภูมิ -30 ถึง 250 องศาเซลเซียล มี 2 แบบ คือ แบบอ่อน และแบบแข็ง